วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

LOVE SICK :: ชุลมุนกางเกงน้าเงิน EP.26



ปวดหัวชิบหาย......... นี่คือความคิดเดียวที่วนเวียนรบกวนผมตอนนี้... แม่งปวดหัวมากจนแทบสลบ อยากจะนอนผึ่งอยู่ตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซํ้าไป แต่ใครวะดันลากผมเดินไม่ยอมหยุด "ปล่อยกู......... กูจะ.... นอนนนน" "เดี๋ยวได้นอนแล้ว" ไม่ต้องใช้เวลาคิดเลยว่านี่เสียงใคร... ผมรู้ได้ทันที "ไอ้ปุณณ์.... มึงจา.. ลากกู.. ไปหนายยย" แต่กว่าจะพูดออกมาได้แต่ละคำนี่ยากลำบากจริงเว้ยเฮ้ย! "ไปนอนไง.. โน่อย่าดิ้นสิครับ กูหนัก" เสียงปุณณ์ตอบพลางขยับท่อนแขนผมให้พาดลำคอมันถนัด ๆ ผมรู้สึกเวียนหัวคลื่นไส้นิดหน่อย เหมือนมีอะไรกําลังจะขย้อนออกมา "ใกล้ถึงแล้ว" พอได้ฟังคำมันพูดแบบนั้น ใจผมค่อยชื้นขึ้นหน่อย เราสองคนเดินทุลักทุเลขึ้นบันได ขณะที่ความรู้สึกปวดหัวยังคงเล่นงานผมอยู่ไม่หายระหว่างปุณณ์กําลังเปิดประตูอะไรซักอย่างออก จนเมื่อลืมตาดูผมก็เห็น.............. ห้องนอนมัน.. ผมรีบหลับตาลงอย่างปวดหัว188
ทันที พากูมาทำไมวะ!! กูจะกลับบ้าน!!!!! "กลับบ้าน! กลับบ้านน! กลับบ้าน! จาา กลาบบ บ้านนน!!" ผมใช้แรงทั้งหมดที่มีดิ้นขลุกขลักทันทีเมื่อรู้ว่าตัวเองกําลังอยู่ไหน ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเอะอะโวยวายไปทำไม ปุณณ์กระชับแขนผมที่พาดบ่ามันอยู่แน่นยิ่งขึ้น "อย่าดื้อได้มั้ย เมาขนาดนี้กลับไปให้อาป๊าตีรึไง" ตามด้วยเสียงบ่นผมอะไรต่ออีกก็ไม่รู้งึมงำ กระทั่งรู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าหลังตัวเองกําลังสัมผัสลงบนเตียงนุ่มเหมือนได้อยู่บนสวรรค์ แต่ดันไม่มีแรงแม้แต่จะเขยิบตัวขึ้นไปนอนดี ๆ นี่สิ ผมดิ้นขลุกขลักไปมาบนเตียงเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว เดือดร้อนปุณณ์ต้องสอดมือช่วยดันหลังผมให้เคลื่อนขยับขึ้นไปนอนบนเตียงดี ๆ แต่ผมกําลังปวดหัวมากกกกกกกกกกกก จนต้องยกมือข้างหนึ่งขึ้นยึดไหล่มันเอาไว้ "ไหวป่าวโน่?" จะบอกว่าไหวหรือไม่ไหวดีล่ะ... หัวแทบจะระเบิดแล้วตอนนี้ แค่อ้าปากพูดยังไม่ค่อยมีแรงเลยด้วยซํ้า อาการปวดหัวของผมดูรุนแรงขึ้นจนต้องฝืนลืมตาตัวเองขึ้นมา.. สิ่งแรกที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าคือ ใบหน้าของปุณณ์ ภูมิพัฒน์ที่ใกล้ซะจนสัมผัสลมหายใจ ทันทีที่ผมเห็นดวงตาคมสีดำแลดูตระหนกคู่นั้นจับจ้องอยู่ตรงหน้าผม ครู่หนึ่งกลับลืมความปวดหัวทั้งหมดเป็นปลิดทิ้ง.. น่าแปลกที่ในดวงตาปุณณ์มักมีอะไรบางอย่างดึงดูดให้ละสายตาไปไม่ได้เสมอ ราวกับถูกนัยน์ตาสีนิลคู่นั้นร้องขอให้อย่าจากไป.. ผมมองลึกเข้าไปในดวงตาวูบไหวคู่นั้น ที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผมอย่างช้า ๆ จนเราต่างเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน... ผมรู้สึกได้ถึงฝ่ามือปุณณ์ที่ลูบไล้บนศรีษะผมเล่นอย่างอ่อนโยน เช่นเดียวกับริมฝีปากของเราที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวสัมผัสกัน.. 189
แต่.. "อุ๊บ......................... แหวะะะะะะะะะะะะะะ" ฉุกเฉินแล้วครับพี่น้อง!!!!!!!!!!!!!!!!!! ต้องรีบเอาออกด่วน!!!!!!!!!!!! ผมผลักไอ้ปุณณ์กระเด็นพลางพุ่งเข้าห้องนํ้าเพื่อกอดโถชักโครกทันที "แหวะะะะะะะะะะะะะะะ" "หึหึ...... อ้วกด้วยเหรอวะ อ่อนว่ะ" เสียงกวนประสาทของไอ้ปุณณ์ยังคงดังตามหลังผมมาไม่ไกล แต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว เพราะการเบ่งอ้วกให้ตัวเองสำคัญกว่า ผมได้ยินเสียงมันหัวเราะในลำคอก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีมือหนา ๆ กําลังช่วยลูบหลังให้ผมอยู่ "อ้วกก็ดีจะได้สบายตัว" แค่พูดมันก็ง่ายแต่ให้ทำจริงน่ะยาก!! ผมอยากจะหันไปด่ามันจริง ๆ แต่ติดอยู่ว่าตอนนี้รู้สึกผะอืดผะอมอยากจะอ้วก พอไอ้ครั้นพยายามเบ่งออกมาจริง ๆ ก็ดันเสือกมีแต่นํ้าย่อย ปุณณ์คอยลูบหลังให้ผมอย่างใจเย็น จนเวลาผ่านไปนานเหมือนกัน "อ้วกปะวะ?" มันคงเห็นว่านานมากแล้วที่ผมมานั่งกอดโถส้วมไว้โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแบบนี้ "อยากก... แต่... ม่ายยอ้วก..." ในที่สุดก็เป็นผมที่ต้องยอมจำนนให้สถานการณ์เลวร้ายแต่โดยดี ทั้งที่ยังรู้สึกพะอืดพะอมจนเหมือนจะทนไม่ไหว แต่ครั้นจะมานั่งแกร่วกอดคอโถส้วมโดยให้ปุณณ์คอยดูแลลูบหลังลูบไหล่ก็น่าเกรงใจมากอยู่ ผมจึงตัดสินใจปล่อยมือออกจากคอห่าน ปล่อยให้ปุณณ์เป็นธุระช่วยประคองผมลุกขึ้นยืนเพื่อกลับไปนอนบนเตียงดังเดิม แต่ระหว่างที่กําลังก้ม ๆ เงย ๆ นั้นเอง ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองทนไม่ไหวแล้ว "อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" ทะยานเต็มตัวทั้งมันและผมเลยครับ พี่น้อง -_-"....... พอทันทีที่กระสุนนัดแรกพุ่งออกมา ผมก็ขาอ่อนลงไปกองปวกเปียกกับพื้นห้องนํ้าอย่างคนหมดแรง 190
"ไหวป่าวโน่!" น่าแปลกที่ปุณณ์ไม่ด่าผม แต่กลับนั่งลงประคองร่างกะปลกกะเปลี้ยของผมยกใหญ่ซะงั้น ผมกําลังจะอ้าปากบอกมันว่าไม่เป็นไร แต่.. "อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" ก๊อกสองครับท่าน!!! นี่ควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ๆ นะ!!!! ปล่าวแกล้ง!!! สิ่งเดียวที่รู้ในตอนนี้ก็คือไหน ๆ อ้วกออกมาแล้วดังนั้นต้องล้วงออกมาให้หมด ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าจะอ้วกรดใส่ใครบ้าง เอาเป็นว่าขอฉวยโอกาสที่ปุณณ์ไม่ด่าเป็นโชคงาม ๆ ของผมหน่อยแล้วกัน "อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" "หมดยัง?" มันลูบหลังลูบไหล่ผมเป็นการใหญ่จนได้ขย้อนอีกสองสามทีก่อนจะรู้สึกว่ากระเพาะตัวเองกลวงโบ๋และว่างเปล่า "หมดแล้วววว" "แน่นะ?" ปุณณ์ถามยํ้าผมอีกครั้งก่อนจะพาไปล้างปากล้างตัวในอ่าง ตอนนี้เราเหม็นอ้วกกันทั้งคู่เลยครับ ถ้าจะอ้วกอีกรอบก็เพราะเหม็นอ้วกตัวเองนี่แหละ ผมนั่งหมดแรงอยู่บนขอบอ่างกลายเป็นโน่เชื่อง ๆ ยอมให้ปุณณ์ถอดเสื้อผมออกแต่โดยดี รวมถึงกางเกงยีนส์ที่เลอะเทอะหมดแล้วนี่ด้วย ผมนั่งก้มหน้าให้สายนํ้าจากฝักบัวรดหัว ขณะที่รอปุณณ์ถอดเสื้อผ้าของมันเองออกบ้าง จนเราสองคนเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวกันทั้งคู่ "เมิงจะทำรายย" เมาแล้วขี้ระแวงไปหมดนั่นแหละครับ "ทำอะไรล่ะ! ล้างตัวสิวะ!" มันตอบกลั้วหัวเราะพลางดึงสายฝักบัวมาฉีดทำความสะอาดล้างตัวให้ผม ผมปัดป้องตัวเองนิดหน่อยเมื่อปุณณ์ทำท่าจะถูสบู่ให้ "จะทามรายกู----------" "ถ้ามึงนอนไม่อาบนํ้า กูลากลงไปนอนโรงรถแน่" มันขู่ว่างั้นแล้วก็ยกแขนยกขาผมถูสบู่ต่อ ซึ่งจะเถียงก็ไม่ได้เพราะผมคิดว่าวันนี้ตัวเองก็โสโครกจริง ๆ ผมนั่งเฉย ๆ ปล่อยให้ปุณณ์ทำความสะอาดตัวผมไปขณะที่รู้สึกว่าตัวเองเริ่มสร่างเมาขึ้นเรื่อย ๆ จนตาสว่างเต็มตื่นแล้ว จึงได้เห็นว่าตอนนี้ปุณณ์กําลังอาบนํ้าให้ตัวเองอยู่ 191
ผมมองภาพนั้นพลางคิดว่ามันออกจะแปลก ๆ กับการอาบนํ้าโดยยังใส่กางเกงบ๊อกเซอร์อยู่อย่างนี้... "ปุณณ์..." "ว่าไง สร่างยัง?" มันหันมาถามผมทั้งที่ยังขยี้หัวตัวเองด้วยแชมพูอยู่ "ก็ดี... มึงไม่อึดอัดเหรอวะ" "อึดอัดไรวะ" มันถามต่อพร้อมกับหันหลังล้างผมไปด้วย "ใส่บ๊อกเซอร์อาบนํ้าเนี่ย........" อืม... ถึงแม้ผมจะคิดว่าเป็นคำถามที่ออกจะล่อแหลมไปหน่อย... แต่คงเป็นเพราะความที่กําลังกึ่ม ๆ เลยกล้าถามออกไปอย่างง่ายดาย แน่นอนว่าปุณณ์หยุดล้างผมตัวเองไปพักหนึ่ง หน้าหล่อ ๆ ของมันหันมายักคิ้วล้อ ๆ "แล้วไง จะให้กูถอดหมดรึไง" "ปกติมึงไปเข้าค่าย มึงใส่งี้อาบนํ้ากะเพื่อนป่าวล่ะ" ผมถามกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ "ไม่.. ล้อนจ้อน" มันตอบมากลั้วหัวเราะ ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่อยากนึกจินตนาการ "เออ แล้วนี่บ้านมึง ก็เอาที่มึงสะดวกสิ" แล้วทำไมผมพูดงี้วะเนี่ยยยยยยยย ปากนะปากกกก มีแรงหน่อยจะตบให้เข็ด! หลังจากคำพูดนั้น ผมสังเกตเห็นว่าปุณณ์นิ่ง แล้วหันไปล้างผมต่อจนเสร็จ ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดตัวเราทั้งคู่ "นี่...." มันเกริ่น "กูก็ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นอะนะ... แล้วก็ไม่อยากจะเลวกว่านี้ด้วย" รอยยิ้มเหงา ๆ ของมันทำให้ผมจุกในอกอย่างบอกไม่ถูก ปุณณ์ยิ้มให้ผมแว่บหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่ม ที่โน้มลงมาสัมผัสหน้าผากผมแผ่ว ๆ 192
"แค่นี้ก็ดีใจแล้ว......... ไปนอนกันเหอะ อย่าอ้วกบนเตียงอะ" มันพูดแค่นั้น ก่อนจะลากผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเข้านอนด้วยกัน เรานอนห่างกันโดยมีหมอนข้างกั้น.. แต่เพียงแค่มือที่จับกันไว้ก็ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด ถ้าความอ่อนโยนนี้เป็นสิ่งเดียวกับที่ปุณณ์ให้เอม.. ผมไม่อยากให้มันเสียเปล่า ***
ผมโผล่หน้าไปโรงเรียนในวันจันทร์เพื่อจะโดนไอ้โอมแซวชิบหายเรื่องที่เมาคาสวนลุมจนถูกไอ้ปุณณ์หิ้วกลับบ้าน แถมยังวีรกรรมเชี่ย ๆ ทั้งหลายทั้งปวงที่ทำไว้อีก... โอ๊ยยยยย ขายหน้า! "เชี่ยแม่งเมาแล้วเก๋าชิบหายอะ ใครขัดใจพ่อจะตื้บหมด" มันยังไม่เลิกครับ ตอนนี้มันกําลังเดินขบวนแห่ประจานผมอยู่ นับได้เป็นรายที่สามของเช้านี้แล้วที่ไอ้โอมเอาผมไปขาย "จริงเหรอวะ ไอ้โน่อะนะ!?" ไอ้ปาล์มอุทานเสียงหลงจนผมฉุนปึ๊ด! ทำไมวะ! คนอย่างกูจะเก๋ามั่งไม่ได้รึไง! "เออ ไอ้โน่นี่แหละ เห็นแม่งเพี้ยน ๆ งี้ เมาแล้วเก๋าชิบหาย ไอ้ปุณณ์อุตส่าห์ช่วยมันดื่มตอนขวดสุดท้าย แต่แม่งเสือกตบหัวไอ้ปุณณ์ควํ่า คุณชายเขาเหวอจนเพื่อนขำทั้งโต๊ะเลย น่าอายโคตร ฮ่า ๆๆๆ" เชี่ยยยยยยยย ผมทำเรื่องแบบนั้นจริง ๆ เหรอวะ!!!!?? "ตบหัวปุณณ์ ภูมิพัฒน์ ไอ้เลขาฯสภาฯอะนะ!?" 193
"เอออออออออ ทำไปได้อะ แม่งข่มผัว ไอ้ปุณณ์ก็กลัวเมียซะ" สาดด กูว่าอุปมามึงนี่ใช้ไม่ได้ละ โอม ผมกําลังอ้าปากจะด่ามัน แต่ไอ้ปาล์มชิ่งส่งสายตาตกใจมาทางผมเสียก่อน "มึงกะไอ้ปุณณ์ไปสัมพันธ์กันแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ!?" ผัวะ!! สรุปว่าตบไอ้เหี้ยนี่ก่อนคนแรกเลยครับ โทษฐานไม่มีวิจารณญาณในการฟัง แม่งงง... ไอ้โอมหัวเราะเสียงดังเอิ๊กอ๊าก (เพราะมันรอด) ก่อนจะสะกิดปาล์มให้ฟังต่อ ซึ่งแน่นอนว่าแม้จะบาดเจ็บไปแล้วแต่ก็ยังไม่เข็ด ไอ้ปาล์มตั้งใจฟังความเชี่ยของผมเมื่อวันเสาร์มากครับ แต่จริง ๆ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าตกลงผมไปทำเชี่ยไรไว้บ้าง (ไอ้โอมมันพูดจริงหรือว่าใส่ไข่วะ!!) แต่ยิ่งได้ฟังผมก็ยิ่งไม่อยากรู้ต่อ T___T ผมเลวมากอะครับ ทั้งเสียงดัง โวยวาย กวนตีนบ๋อย ชนเหล้าหก ทำร้ายร่างกายเพื่อน ๆ แถมเพิ่งระลึกชาติได้ด้วยว่าทำมือถือตัวเองตกไปตั้งสามรอบ จนพวกมันลงมติตรงกันว่าต้องรีบเอาผมกลับ แต่ผมยังไม่ยอมกลับบ้านดี ๆ อีก โอมมันบอกว่าต้องใช้เพื่อนประมาณสิบกว่าคนช่วยกันรุมมัดผมขึ้นแท็กซี่เพื่อให้ไอ้ปุณณ์ (ผู้โชคร้าย) เอากลับไปลงหม้อถ่วงนํ้า แล้วทำไมปุณณ์ไม่บอกผมซักคำเลยล่ะวะ ว่าผมเชี่ยขนาดนั้น!!! T_____T มึงอย่ามาพระเอกกกกกกกก "ไอ้เชี่ย มีตอนนึง ห่าโน่แม่งเมาแล้วเก๋า จะเดินไปไหนไม่รู้ ไอ้ปุณณ์ก็คอยดึง ๆ ไม่ให้มันไป แต่แม่งไม่ยอม เสือกสะบัดปุณณ์กระเด็นแล้วเดินไปหน้าจะควํ่าเอง ดีว่าไอ้ห่าปุณณ์มันไว ดึงไอ้โน่ไว้ทัน... ท่าแม่งงงงงงงงงงงงง อย่างกับพระเอกประคองนางเอกในนิยายยยย" "โรแมนติกโคตรเลยสิวะ!" กูว่ามึงฟังเงียบ ๆ ไม่ต้องเสริมจะดีกว่านะปาล์ม! "เออ.. โรแมนติกสัด สุดท้ายนางเอกต่อยพระเอกควํ่า แล้วลงไปล้มกองอยู่กับพื้นทั้งคู่เอง พวกกูฮาแตกกก194
กกกกกกกกกกก" โอ๊ยยยย อยากจะหายตัวเดี๋ยวนี้เลยครับ!! ไอ้โอมกับไอ้ปาล์มพักขำกลิ้งกัน ก่อนจะเริ่มวิจารณ์ต่อ "ถ้าแม่งไม่ได้มีแฟนกันแล้วทั้งคู่นะ กูฟันธงไปแล้ววว แม่งเหมือนผัวเมียตีกันชิบหาย" นับว่ายังดีที่มันระลึกได้ว่าผมมีแฟน.. หลังจากนั้นพวกมันจะเล่าอะไรต่อผมไม่ค่อยได้ฟังแล้ว (เยอะจัด) ตอนนี้คิดแต่ว่าปุณณ์จะเป็นไงมั่งวะนั่น ผมเองก็ไม่ได้มองซะด้วยว่าร่างกายมันบอบชํ้าขนาดไหน สงสัยผมจะเมามากไปหน่อยจริง ๆ "แล้วปุณณ์เจ็บตัวเยอะป่าววะโน่ กูเห็นมึงทุบมันเอา ทุบมันเอา ชํ้าปะ" โอมแว่บมาถามผมขณะที่ผมกําลังใช้ความคิดอยู่ "ไม่รู้" "เอ๋า.. แล้วตอนอาบนํ้ามึงไม่เห็นรึไง" "กูเมาว่ะ ภาพมันเบลอ ๆ ลาง ๆ" "..........................................." เอ๊ะ!? นี่ผมโดนหลอกถามอะไรรึเปล่าวะ.. "ไอ้เชี่ยโน่กับปุณณ์แม่งอาบน้าด้วยกัน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" ฉิบหาย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ไอ้โอมตะโกนดังมากครับ ดังจนเพื่อนทั้งห้องกรูมาตรงนี้เลยที่เดียว ไอ้สาดดดดดด กูป่าวววววววววววววววววววววว "เห๊ย! สัด!!!!!!! กูใส่บ๊อกเซอร์อาบกันทั้งคู่เหอะ!!!!!!!!" ผมพยายามปกป้องตัวเองครับ! แต่ไอ้รถเก๋ง (ที่วิ่งมาสมทบทีหลัง) หันมาชี้หน้าผมอย่างพยายามจะหาเรื่องให้ "ถ้าพวกมึงสองตัวไม่ได้คิดไรกัน มึงแก้ผ้าอาบด้วยกันไปแล้ว นี่แม่งมีใส่บ๊อกเซอร์ห้ามใจด้วยว่ะ!!" 195
"ฮิ้ววววววววววววววววววววววว" แต่กูล่ะเกลียดไอ้เหี้ยพวกที่เป็นลูกคู่จริง ๆ (ชั่วววว)... ทำไมพวกมันรู้ทันผมไปหมดเลยครับ ไม่รู้จะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมาเถียงแล้วววว แถมในขณะที่ทุกคนกําลังตั้งวงล้อผมกันสนุกสนานนั่นเอง... "ห้องนี้เล่นไรกัน เสียงโคตรดัง" ไอ้ห่า....... มึงมาทำไมตอนนี้!! ผมหันไปมองหน้าปุณณ์ คู่กรณีที่มายืนเด๋ออยู่กลางห้อง พร้อมรู้สึกเหมือนตัวเองเห็นผี "ฮิ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว" ไอ้ลูกคู่เอาอีกแล้วครับ มึงไปหากลองยาว กรับ แคน ต้นกล้วย มาเลยนะ กุจะตั้งประตูเงินประตูทอง "อะ ส่งเจ้าสาวเข้าเรือนหอออออออออออออออออออออออออออออ" เชี่ยรถเก๋งกับไอ้เก่งดันหลังผมไปหาไอ้ปุณณ์ใหญ่ (ยังไม่ทันมีประตูเงินประตูทองเลย แม่งส่งกูเข้าเรือนหอแล้ว!? สาดด ไร้ค่าหวะ) ปุณณ์ดูไม่ค่อยเข้าใจมุกนี้เท่าไหร่แต่ก็ยิ้มให้พวกผม เห็นมันขำกับความเพี้ยนของเพื่อนผมแล้วก็ยิ่งหนักใจ -_-".. มึงช่วยรู้เรื่องบ้าง ไรบ้าง "ยืมตัวเจ้าสาวแป๊บนึงนะ เดี๋ยวเอามาคืน" แล้วพูดงั้นมึงรู้ความหมายป่าววะ!!!!!!!! เสียงเพื่อนผมโห่รับกันใหญ่ ขณะที่ผมโดนมันลากออกไปนอกห้องแล้ว ToT.. ชีวิตกรู "เพื่อนเล่นไรกันอะโน่ ท่าทางสนุกว่ะ" ทันทีที่ออกมา มันก็ถามอย่างตื่นเต้นเมื่อเรายืนอยู่หน้าห้องกัน แต่ผมก็ไม่รู้จะตอบไงว่ะ เหอ ๆๆ "มึง..." ผมรีบถามเรื่องที่ผมสงสัยทันที "มึงโดนกูเล่นเยอะเลยเหรอวะ ที่สวนลุม" ท่าทางมันคงคาดไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากผม เพราะเห็นมันอึ้งไปน่าดู "ทำไมอะ" 196
"ไอ้โอมบอกกูเมาเชี่ยมาก อัดมึงสารพัด เชี่ย กูขอโทดดดดดดดดด กูเมาาาาาาาาาาาาาาา กูไม่ตั้งใจจจจจจจจจจจจจจจจจ" ผมยกมือไหว้มันปลก ๆ ด้วยความรู้สึกผิดอย่างท่วมท้นโคตร ๆ แต่ก็มันนั่นแหละ! แม่งจะพระเอกไปไหน ทนผมไปได้ไง แถมยังไม่ยอมเอามาบ่นซักคำ ได้ยินเสียงมันหัวเราะหึหึอย่างมีเลศนัย "เออ... กูเจ็บตัวมากอะ มึงรุนแรงกับกูชิบหาย กูว่าจะหาทางเอาคืนอยู่" "เชี่ยยยยยย ขอโทษษษษ ต่อยกูเลย ๆๆ เตะกูก็ได้ วันนี้กูยอมมมมมมมม" "ก้มหน้า หลับตา!" เชี่ยแม่งเป็นพี่ว้ากรึไงวะ แต่ผมขัดคำสั่งมันไม่ได้อยู่แล้วเพราะผมบอกวันนี้จะยอมมัน หวังว่าคงไม่อัดผมหนักมากนะ Y__Y ผมก้มหน้า หลับตาปี๋ พร้อมกับคิดไปด้วยว่าปุณณ์จะทำอะไร มันอาจอยากตบหัวผม หรือไม่ก็ดีดหู ศอกหลัง ตีเข่า หรืออะไรซักอย่าง?....... ว่าแต่แบบไหนมันเจ็บสุดวะ ผมจะทนเท่าที่มันทนผมได้ป่าวเนี่ยยย ผมคิด คิด คิด จนรู้สึกว่ามีอะไรเย็น ๆ มายุกยิก ๆ บริเวณคอ "ลืมตาได้" สิ่งที่เห็นอย่างแรกคือแท็คเหล็ก ของที่ระลึกงานบอลห้อยอยู่บนคอผม!! "เฮ้ย!!!!!!!!! เกือบลืมไปแล้วว่ามี!!! ตกลงมันเหลือจากแสตนเหรอวะ!?" ปุณณ์ยิ้ม ๆ พลางส่ายหน้า "ไม่อะ น้องสำรองขึ้นเยอะ พวกพี่ศิษย์เก่าก็เอาด้วย นี่พอดีตอนนั้นกูป้อนข้าวป้อนนํ้าเอิ้นอยู่หน้าแสตนพอดี เลยคว้ามาทัน อันนึง" "อันเดียว?" 197
"อืม" "แล้วของมึงอะ" "ไม่เป็นไร นี่ไง เอามาให้มึง" แล้วเมื่อไหร่มันจะเลิกทำตัวพระเอกซักทีครับ ผมเครียดด "ตลก! มึงเอามาได้มึงก็เอาไปสิวะ!" ผมด่าพลางพยายามจะแกะแท็คออก แต่ปุณณ์คว้ามือผมไว้แน่น พร้อมส่งสายตาไม่พอใจมาอย่างประหลาด "กูให้... มึง... อย่าทำแบบนี้ได้ปะ" เออ ผมลืมไปว่าทำแบบนี้มันไม่ควร.. ปุณณ์คงเห็นว่าผมไม่แกะแท็คเหล็กแน่แล้วจึงยอมปล่อยมือผม "แต่มึงก็ทำงานหนักนะ ต้องอยากได้สิ... ปกติของแบบนี้เขาเอาไปให้แฟนกันนะเว่ย" คำหลังผมพูดทำไมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่นี่เป็นเรื่องจริงครับ ของที่ระลึกงานสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ ถ้าจะให้ใครสักคน คน ๆ นั้นก็มักเป็นแฟน ปุณณ์ถอนหายใจยาวจนผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจมัน "เอมเขาได้ไปจากกูเยอะแล้ว.... ขอกูให้อะไรมึงมั่งเหอะ... อย่าห้ามอะ" ได้ฟังแบบนี้แล้วผมจะพูดอะไรต่อได้ เราสองคนยืนมองหน้ากันเงียบ ๆ แต่ในหัวผมกลับมีเรื่องที่คิดอยู่มากมาย... ผมรู้ว่าปุณณ์เองก็เหมือนกัน ดวงตาคมคู่นั้นพยายามจะบอกอะไรผมบางอย่าง "เฮ้ย โน่! อ้าว... ปุณณ์ ห้องเรียนอยู่ไหน?" เราสองคนสะดุ้งนิดหน่อย เมื่อได้ยินเสียงเอิ้นทักผมและแซวไอ้ปุณณ์ดังมาแต่ไกล ปุณณ์หันไปยิ้มให้เพื่อนที่เพิ่งทำหน้าที่ประธานเชียร์เสร็จเมื่อวันเสาร์ "แล้วห้องเรียนมึงล่ะ" มันหันไปแซวกลับขำ ๆ เห็นเอิ้นหัวเราะกลับมา "มึงหายเจ็บแล้วเหรอวะ" ไอ้198
สาดดดดดด พวกมึงเลิกพูดถึงเรื่องที่สวนลุมซักทีได้ปะ!! เสียงปุณณ์หัวเราะลั่นพลางหันมาหลิ่วตาล้อผม "กูว่าจะฟ้องพ่ออยู่เนี่ย" สาดด ไอ้ลูกแหง่ ถ้าไม่ติดว่าเมื่อวันเสาร์ผมต่อยมันไปหลายทีแล้วนะ วันนี้ผมจะต่อยอีกที "เออ เอาเลย.. แล้วมึงคุยกะโน่เส็ดยังเนี่ย กูต่อ" แต่สรุปว่าไอ้ห่าพวกนี้เห็นกูเป็นโรตีบอยรึไง วันหลังผมคงต้องทำบัตรคิวมายืนแจกแล้วครับ ปุณณ์คลี่ยิ้มให้ผม "เสร็จแล้ว.. วันศุกร์อย่าลืมนะโน่" มันตอบเอิ้นแค่นั้นก่อนจะกําชับผมเรื่องหัวหิน... ซึ่งก็เกือบลืมไปแล้วจริง ๆ ท่าทางไอ้เอิ้นมันงง ๆ มองตามหลังปุณณ์จนหายลับไป "วันศุกร์มีไรอะ?" "ไม่มีไรหรอก มึงแหละ มีไร" ผมบอกปัดพลางถามกลับเพราะเห็นมันทำท่าเหมือนมีเรื่องอยากจะคุยกับผม "อ๋อใช่ ๆ กูเอานี่มาให้ ตามสัญญา" เอิ้นยิ้มเผล่แล้วแบมือโชว์แท็คเหล็กงานบอลที่คงจะเอามาให้ผม แต่.... อะไรวะเนี่ยยยยยยยยยยยย? "เฮ้ย! กูใส่อยู่เนี่ย!" ผมรีบชี้คอตัวเอง มันไม่ได้มองเลยใช่ไหม -_-" ไอ้เอิ้นทำหน้าตกใจเหมือนเห็นผี "เอามาจากไหนวะ! ฝ่ายเทคนิคไม่มีใครได้เลยไม่ใช่เหรอ!?" แต่กูคงจะเป็นเทคนิคที่ได้ซ้อนกันสองอันว่ะ ฮ่า ๆๆ "ปุณณ์มันเพิ่งเอามาให้เมื่อกี้เอง เสียใจด้วยพวก... อกหักแล้ว" ผมตบบ่ามันล้อ ๆ ไม่ได้กะจะพูดจริงจัง แต่เห็นหน้ามันสลดลงไป "เออว่ะ.. สงสัยจะอกหักจริง ๆ" มันพึมพำว่าอะไรนะครับ ได้ยินไม่ถนัด? "ห๊ะ???" 199
"เปล่า ๆๆๆ งั้นกูเข้าเรียนก่อน เรื่องไลฟ์คอนเทสต์ วงกูสมัครด้วยนะ เดี๋ยวเอาใบไปส่งให้" เอิ้นเปลี่ยนมาพูดถึงเรื่องงาน Live Contest ที่ชมรมผมกําลังจะจัดช่วงก่อนคริสมาสต์ เพื่อหาวงดนตรีเล่นงานคริสมาสต์ และไปแข่งงาน RAD ที่วัดราชบพิตร ผมยิ้มให้มันอย่างยินดี "เออ ๆๆ ส่งที่ห้องชมรมนะ ไม่ว่างไปก็เอามาให้กูที่ห้องได้" ผมบอกมันอย่างนั้น แต่เห็นมันแค่นยิ้มตอบแบบเหนื่อย ๆ ก่อนจะรํ่าลากันแล้วเดินจากผมกลับห้องตัวเองไป เป็นไรของมันวะ ทำท่าเหมือนคนเซ็งโลก? แต่ช่างเหอะ... ศุกร์นี้ผมต้องไปหัวหินแล้วเหรอวะเนี่ยยย..

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น