วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2558

LOVE SICK :: ชุลมุนกางเกงน้าเงิน EP.24



ในที่สุดก็ถ่อมาถึงนี่จนได้........... ผมนั่งแหมะหันรีหันขวางภายในร้านอาหารตกแต่งสไตล์เก๋ ที่ตั้งอยู่แถวเอกมัยบ้านผมเอง เคยได้ยินยูริบ่นอยากมากินหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่เคยมาซักที (เพราะร้านมันเปิดแต่ตอนดึก ๆ นี่ครับ) ครั้งนี้คงสมใจอยาก เพราะยูริเป็นคนเลือกร้านอาหารเอง จัดการอะไรเองเสร็จสรรพ แต่ผมน่ะงง... ไม่ใช่เพราะงงว่าที่ไหน (ก็มันแถวบ้านผม) แต่งงว่า ตกลงผมละเมอตามยูริมาถึงนี่ได้ยังไง..? ผมขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ ร้านที่ตกแต่งอย่างทันสมัยด้วยตู้ปลามากมายเข้ากันกับทั้งคอนเซปต์และชื่อร้านที่ต้องการให้เป็นตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่นี่มีชื่อมากในเรื่องสไตล์การจัดแต่งร้านและรสชาติอาหารครับ ผมเคยมากินกับเพื่อน ๆ หลายที (เวลามีตังค์) หรือบางครั้งอาป๊าก็พามาเองบ้าง แต่วันนี้นอกจากปลาตัวเบ้อเริ่มที่ว่า170
ยวนอยู่รอบร้านแล้ว ข้าง ๆ ผมยังมียูริ และ................ ไอ้ปุณณ์กับเอมที่นั่งอยู่อีกฝั่งโต๊ะ -_-" "ดีใจจังที่ปุณณ์กับโน่สนิทกัน รู้งี้ชวนไปเที่ยวกัน 4 คนนานแล้วเนอะเอม~" เสียงเจื้อยแจ้วของยูริยังคงดังข้าง ๆ ผม ก่อนจะตามมาด้วยรอยยิ้มสวยจากเอมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ผมฟังคำนั้นแล้วโคตรอึดอัด... ไม่รู้ปุณณ์ฟังแบบนี้แล้วจะรู้สึกยังไง แต่สำหรับผมน่ะ กระอั่กกระอ่วนพิลึกว่ะ ถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าไปทำอีท่าไหนผมดันมาโผล่ที่นี่กับยูริ เอม แล้วก็ปุณณ์ได้... คืออันที่จริงผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ แค่ถูกยูริอ้อนซะจนไม่รู้จะบอกปัดยังไง สุดท้ายเลยลงเอยแบบเดิมตรงที่เธอคิดเองเออเองว่า ผมไปด้วยแน่นอน (เฮ้ย!?) แล้วเรื่องก็จบแบบเดิม ๆ คือ.. ผมกลายเป็นเหยื่อความคิดไปเองของยูริทู้กกกกกทีสิน่า!! ตอนแรกแค่นึกว่าเราจะมากินกันสองคน แบบสบาย ๆ แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้านเฉย ๆ แต่ที่ไหนได้วะ ผมคิดผิด.. เพราะพอยูริตกลงกับตัวเองเสร็จว่าผมจะไปด้วย (หมายความว่าไงวะนั่น) เธอก็โทรหาเอมทันที เป็นอันว่าชีวิตผมจบเห่... ปุณณ์ไปด้วยแน่นอน เมื่อกลายเป็นเหยื่อของผู้หญิงของตัวเองด้วยกันทั้งคู่.. เราสองคนก็ได้แต่ปลงในชะตาชีวิต เดินกลับไปทำพิธีเปลี่ยนเสื้อผ้ากันที่ห้องเปลี่ยนชุดหลีดห้องเดิม แต่คราวนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะจากหลังเลิกงานคนก็ทะลักทะลายมาก กว่าพวกผมจะทำใจถอดกางเกงได้แต่ละที พลพรรคแก็งค์นางฟ้าเล่นกรี๊ดกร๊าดซะจนห้องแทบแตก ทำเอาคนจะถอดเสียเซลฟ์ไปหลายนาที นึกว่าตูคงไม่รอดออกมาซะแล้ว (โดยเฉพาะไอ้ปุณณ์) -_-" แถมไอ้ปุณณ์ยังกวนตีนชิบหายอีก เพราะตอนแรกผมงงว่ามันจะใส่ชุดหมีไปกินข้าวรึไง (ก็ผมจะเอากางเกงยีนส์คืน) แต่ปรากฏว่าไม่............. เพราะจริง ๆ แล้วมันก็เอากางเกงยีนส์มาเหมือนกัน ไอ้สัด!!!!!!!! แล้วใส่กางเกงยีนส์กูอยู่ได้ทั้งวัน โคตรเหม็นเหงื่อชิบหาย ไอ้ห่า........... กวนตีนนัก 171
แต่ไม่เป็นไรครับ คนอ่านไม่ต้องกลัวว่าโน่จะเสียเปรียบ เพราะผมดึงกางเกงยีนส์มันมากระทืบ ๆๆ ซํ้า แก้แค้นเรียบร้อยแล้ว ก๊าก ๆๆๆ โอเค.. ตัดกลับมาที่ห้องส่ง ผมแค่นั่งเหม่อแป๊บเดียว สองสาวก็จัดการสั่งอาหารกันเรียบร้อยเสร็จสรรพ โดยที่ทั้งปุณณ์และผมไม่ต้องเสียเวลาอ้าปากออกความคิดเห็นอะไรเลย.. ดีเหมือนกันครับ เพราะพวกผมมันลิ้นจระเข้ ให้กินอะไรก็กินได้ทั้งนั้น ขอแค่เป็นของที่มนุษย์เขากินกัน "ยูสั่งขาหมูเยอรมันนํ้าตกของโปรดโน่มาให้ด้วยแหละ" ยูริหันมาพูดกับผมยิ้ม ๆ ซึ่งผมก็ยิ้มกลับไปแบบ งง ๆ....... เอ.. ผมเคยชอบด้วยเหรอวะ? "ขอบคุณครับ" แต่ก็เอาเหอะ.. ชอบก็ชอบ..-_-".. ไม่ได้ถึงกับไม่ชอบอะไรนี่หว่า.. แหะ ๆๆ "แหม... เอมก็สั่งไก่ทอดฟาโรห์ของโปรดปุณณ์ให้เหมือนกันนะ รู้ใจรึเปล่า?" นั่น.... จะขยันทำคะแนนไปไหนกันครับสาว ๆ!! แค่นี้พวกผมก็แข่งกันยิ้มแหะ ๆๆ จะแย่อยู่แล้วว ผมเหล่มองไอ้ปุณณ์ที่ยิ้มแหะ ๆ (ท่าเดียวกะผมเดี๊ยะ) ก่อนมันจะเหลือบตามองผมนิดหน่อยแล้วตอบเอมว่า "ครับ.. ขอบคุณมาก" เล่นเอาผมขมวดคิ้วเป็นเงื่อนพิรอดทันที.. มึงจะทำท่ากระมิดกระเมี้ยนทำไมวะะ กูไม่เกี่ยวซักหน่อย.. ในขณะที่ผมกําลังคิดอยู่นั่นเอง (ว่ามันจะต้องสนใจผมทำไม) ก็มีอาหารจานแรกซึ่งเป็นรวม appetizer ต่าง ๆ ถูกบริกรพามาเสิร์ฟตรงหน้าเรียกความสนใจไปจากผมเสียก่อน น่ากินนนนนนนนนนน จนลืมเรื่องอื่นเลยแหะ! "อันนี้ให้โน่ ๆๆ" ยูริรีบยกช้อนส้อมขึ้นตักขาหมูเยอรมันในนั้นให้ผมทันที ขณะที่เอมไม่ยอมแพ้ เธอยกมือตักแซลม่อนแช่นํ้าปลาให้ปุณณ์เป็นการใหญ่... เฮ้ย! แต่ผมก็อยากกินแซลม่อนแช่นํ้าปลานะะะ! 172
แน่นอนว่าผมต้องยับยั้งความตะกละของตัวเองเอาไว้ เนื่องจากติดภาระกิจต้องปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษที่ดีก่อน "อะครับ..." แต่แค่ผมตักปลาหมึกวงทอดให้ยูริแค่นี้ เธอเล่นดีใจซะจนออกนอกหน้า รีบยกขึ้นมาอวดเอมเป็นการใหญ่ ^^"... เอาเข้าไปครับ ผู้หญิงสองคนนี้ ผมหลุดหัวเราะขำออกมาเบา ๆ เอมหน้างํ้าลงไปเล็กน้อยเมื่อปุณณ์ยังคงง่วนกับการรินนํ้าเติมให้แก้วทุกคนอยู่เลยไม่ทันสนใจตักของกินให้เอม ผมแอบเห็นมือเล็ก ๆ ของเธอกระตุกชายเสื้อยืดปุณณ์เป็นการใหญ่ "ปุณณ์อะ... ไม่ตักให้เอมบ้างเลย" เอาแล้วไงเมิง หึหึ.. ปุณณ์หันมาทำหน้าเหวอไปกับคำนั้นทำเอาผมขำนิดหน่อย ก่อนที่จะเห็นมันรีบเอื้อมมือตักชีสทอดให้เอม "นี่ไงครับ ปุณณ์มัวแต่รินนํ้าให้อยู่ ขอโทษนะ" แต่สาวเจ้าไม่เห็นมีท่าทีจะดีใจขึ้นเลยแหะ? ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัยในท่าทางงอนหนักกว่าเก่าของแฟนเพื่อนตรงหน้า แต่ดูไอ้ปุณณ์จะไม่ทันสังเกต เพราะหลังจากนั้น มันก็เสือกตักแซลม่อนแช่นํ้าปลาในจานมันแบ่งมาให้ผมแทนซะงั้น "อะมึง.. ขอขาหมูเยอรมันกูมั่งดิ แลกกัน" อ้าวไอ้นี่... ขี้โมเมอีกคนละ "ตลก ใครตกลงกะมึงวะ แต่ขอบใจนะสำหรับแซลม่อน กูอยากพอดี" ผมว่าพลางจิ้มเนื้อแซลม่อนเข้าปากแล้วกั๊กขาหมูไว้ไม่ให้ไอ้ปุณณ์ขโมยได้ แว่วเสียงมันร้องโอดครวญยกใหญ่ หึหึ ไอ้ปัญญาอ่อน.. "ถ้าแดกคนเดียว ขาหมูเยอรมันมึงจะยกพวกตีกันกับแซลม่อนกูในหลอดอาหาร แล้วบึ้ม!!!..." "กลายเป็นโกโก้ครั้นรึไง.. มึงบ้าป่าวววววววววววววววววว หลอดอาหารกูไม่ใช่ทุ่งข้าวสาลี อยากแดกขนาดนั้นเอาไปเลยสาดดด" ทุเรศมากครับ ผมโวยใส่มุขควายของไอ้เชี่ยปุณณ์ (ที่ได้ยินทุกเช้าเสาร์อาทิตย์เวลาดูช่องเก้าการ์ตูน) ก่อนจะยอมแบ่งขาหมูเยอรมันให้มันเสี้ยวหนึ่งจากที่ผมมี ทั้งที่มันตักให้แซลม่อนผมมาครึ่ง ๆ เด๊ะ ๆ.. ฮ่า ๆ ผมไม่ใช่คนเอาเปรียบใช่ปะคับ ในที่สุดระหว่างผมกับมันก็กลายเป็นสงครามแย่งของกินย่อย ๆ ไป ช้อนส้อมเราปัดกันมั่วไปมาบนจานข้าวผมบ้างจานข้าวมันบ้าง จนโต๊ะนี้มีแต่เสียงเด็กผู้ชายโวยวายอยู่พักหนึ่งแบบน่าผิดสังเกต? 173
ไอ้ปุณณ์เป็นคนแรกที่รู้สึกได้ก่อนผม มันรีบหยุดสู้แล้วหันกลับไปหาเอมทันที "เป็นไรป่าวครับเอม? เงียบเชียว หืม?" พอผมเห็นเอมยังคงนั่งหน้าบึ้งอยู่อย่างนั้นแล้วก็ต้องปรับลดดีกรีความซ่าส์ของตัวเองลงบ้าง โดยไม่ลืมจะแอบมองหน้ายูริไปด้วย (เผื่อไวรัสงอนจะเป็นโรคติดต่อ) แต่รายนี้เขายังยิ้มสนุกอยู่ว่ะ ท่าทางจะดูผมกับไอ้ปุณณ์ตีกันเพลิน "ปุณณ์ตักชีสทอดให้เอมทำไม... ปุณณ์จำไม่ได้เหรอว่าเอมไดเอท" เอาแล้วไงครับพี่น้อง เรื่องของครอบครัวเขาเราไม่เกี่ยวว่ะ... ผมคิดได้ดังนั้นก็รีบคว้าแก้วนํ้ามาดื่มทันที ทำทีเป็นไม่ได้ยิน "โธ่... ปุณณ์ขอโทษนะ" แว่วเสียงมันง้องอนกันอยู่พักหนึ่ง พี่บริกรก็เอาอาหารจานอื่น ๆ มาเสิร์ฟ ผมเห็นมือปุณณ์รีบคว้าเอาสลัดจานสีสดใสไปอย่างว่องไว "นี่ไง Rocket Salad ของเอม ปุณณ์จำได้ เห็นมั้ยครับ" เออมันเก่งว่ะ.. ขณะที่ผมยังมึนอยู่เลยว่าอันไหนของยูริ เธอก็คว้าสปาเกตตี้เบค่อนกุ้งของตัวเองไปก่อน เออดี.. รายนี้ก็ไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อยอะไรดี ผมชอบ หลังจากที่นั่งฟังไอ้สองคนฝั่งตรงข้ามง้องอนกันมาได้พักใหญ่ (พักใหญ่มากจริง ๆ เอมงอนโคตรนาน) ในที่สุดเอมก็พอยิ้มออกบ้างเมื่อปุณณ์คอยตักยำวุ้นเส้นซีฟู้ด และสารพันอาหารอร่อยต่าง ๆ เอาใจเธอไม่ขาด ส่วนผมที่นั่งมองภาพตรงหน้า ยังตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าเกิดความรู้สึกอะไร ช้อนส้อมที่ถืออยู่มันหนักอึ้ง เสียจนทำได้แค่เขี่ยข้าวในจานไปมา.. "โน่..... โน่.......... โน่................... โน่!!!!!!" ห๊ะ!!!?? สะดุ้งสุดตัวเลยครับเพราะยูริเขย่าผมในตอนท้ายจนตกอกตกใจ เออนี่ผมมัวแต่เหม่อไปไหนวะ ยังถือช้อนส้อมคามืออยู่แท้ ๆ น่าอายจริง... ผมสะบัดหัวตัวเองไล่ความคิดแปลก ๆ นิดหน่อยก่อนจะหันไปมองคนที่เรียกชื่อผมทั้งตัว "วะ ว่าไงครับ??" "เหม่อจัง... เสียดายขาหมูเหรอ ยูสั่งให้อีกก็ได้" 174
"ไม่ใช่ ๆ อะไรจะขนาดนั้นเล่า" ผมรีบปฏิเสธจนเธอขำคิกคัก ก่อนจะวางช้อนส้อมในมือลงแล้วเอื้อมไปสะกิดเอมบ้าง "นี่ ๆ เอม พูดซักทีสิ ฉันรออยู่นะ" เป็นเพราะอยู่ดี ๆ ยูริก็พูดจาแปลก ๆ แบบนั้น ทำเอาผมกับปุณณ์ต้องมองหน้าสองสาวแบบงง ๆ พร้อมกัน ด้วยตามไม่ทันว่าพวกเธอวางแผนอะไรอยู่ เอมมีท่าทีกระมิดกระเมี้ยนเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสะกิดไหล่ปุณณ์ทั้งที่ปุณณ์เองก็มองเธออยู่แล้ว "มีไรป่าวครับ?" "ปุณณ์ สุดสัปดาห์หน้าว่างไหมคะ" แม้ท่าทางปุณณ์จะงง ๆ แต่ก็หยิบมือถือออกมากดดูตารางแต่โดยดี แน่นอนว่ายูริไม่ยอมน้อยหน้าเช่นกัน "โน่ดูด้วยสิ ๆๆ" เธอคะยั้นคะยอ แต่คนอย่างผมมีเหรอจะเซฟตารางงานไว้ในมือถือ (ใช้ระบบความจำล้วน ๆ ครับ.. ถึงได้ลืมบ่อย) เท่าที่จำได้ก็คงไม่มีอะไรมั้ง? ปุณณ์กดมือถือยุกยิก ๆ อยู่สองสามทีก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบ "ก็ว่างอยู่ครับ อยากไปไหนรึเปล่า?" ด้วยคำตอบนี้ทำเอาเอมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ในขณะที่ยูริเองก็ใช้ไหล่ถองผมไม่หยุดเช่นกัน "โน่ล่ะ ๆ" "ว่างมั้งครับ มีอะไรกันเนี่ย" อมพะนำอยู่ด๊ายย อยากรู้จะแย่แล้วว! ทั้งที่ผมเป็นคนออกปากถามอย่างนั้นเอง แต่พอเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ ของยูริกับเอมแล้วดันรู้สึกไม่แน่ใจว่าอยากฟังคำตอบอย่างประหลาด... ผมกลืนนํ้าลายเอื้อกเพราะจับพลังได้ว่าสองสาวมองหน้ากันอย่างมีเลศนัยแปลก ๆ แถมยังเลยมามองพวกผมสองคนอย่างมีนัยแฝงไปด้วย..... ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่วะเนี่ย!? "เอมเขาได้ไอ้นั่นมาล่ะ" คนเริ่มพูดก่อนคือยูริ เธอเกริ่นพลางยื่นมือมาตีมือเอมยกใหญ่เหมือนจะให้โชว์ "ไอ้นั่น" ที่เพิ่งพูดถึง... ว่าแต่.. "ไอ้นั่น" มันคืออะไรวะ????? นักเรียนชายเขาคิดลึกกันนะเฮ้ย!! 175
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดไปถึงไหนต่อไหน บางอย่างสีขาว ๆ ก็ปรากฏตรงหน้าเสียก่อน... มันคือการ์ด gift voucher ครับ ผมพยายามจะเพ่งมองว่ามันคือ gift voucher ของอะไร แต่ยูริคงเห็นหน้าผมยังไม่ฉลาดซักที เธอจึงพูดให้ฟังต่อ "เอมเขาได้ gift voucher มาจาก serenade น่ะ เป็นที่พักของรีสอร์ทในหัวหิน ได้มาตั้งสองห้องแน่ะ ไปกันนะ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ" ถึงตอนนี้แขนผมแปรสภาพเป็นต้นไผ่ที่มีหมีโคอาล่าเกาะแจไปแล้ว เอาไงดีวะเนี่ย.. เมื่อเงยหน้ามาก็พบกับไอ้ปุณณ์กําลังมองหน้าผมแปลก ๆ ซึ่งคงเป็นแบบเดียวกันกับที่ผมมองมัน เพราะผมเองก็รู้สึกแปลก ๆ... ที่จะต้องไปไหนมาไหนกัน... สี่คนอย่างนี้ "ตกลงว่าไงอะโน่..... ไปนะ!!!" เอาแล้วไงครับ โรคคิดเองเออเองของยูริ บวกกับรอยยิ้มหวานบาดใจจากเอม "ปุณณ์ไปนะคะ" แล้วผู้ชายหน้าไหนจะปฏิเสธสองคนนี้ลงล่ะครับ! *** หลังจากที่ท้องอิ่มแปล้ (จะแข่งกันเอาใจแฟนไปไหน ผู้หญิงสมัยนี้) จนเช็คบิลค่าเสียหายไปเป็นเลขสี่หลักกว่า ๆ ก็ถึงเวลาที่พวกผมต้องเดินไปส่งเธอ ๆ ขึ้นรถแท็กซี่กัน โดยไม่ลืมจะเลือกคันสีฟ้า เพราะมี GPS ติดอยู่ (เห็นมันโฆษณาว่างั้น) และถ่ายรูปทะเบียนรถเก็บไว้ในมือถือเสร็จสรรพ (ปลอดภัยไว้ก่อนครับ ดึกแล้ว) ถ้าจะถามว่าทำไมไม่ไปส่งน่ะเหรอ..................... ก็เพราะพวกผมยังมีภาระกิจต่อน่ะสิ 'อูโว่ อูโว๊ะ โอ๊ะ ก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น น่ารัก.. ก็เลยเข้าไปทาความรู้จัก' 176
ไอโฟนผมแหกปากร้องเพลงดังลั่น (เพิ่งเปลี่ยนริงโทนตอนทำงานบอลครับ น้องแพงบลูทูธให้) หลังจากรถแท็กซี่สีฟ้าคล้อยหลังไปได้ไม่เกินครึ่งวิ ผมลุกลี้ลุกลนควักมันออกมา มองแค่หน้าจอปราดเดียวก็รู้ว่าหน้าเหี้ย ๆ อย่างนี้ ไอ้โอมแน่นอน "อาราย..." "แยกกะแม่มึงยังวะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" หูยยยยยย....!!!! จะตะโกนเสียงดังไปเพื่อใครวะ!! ผมสะดุ้งจนไอ้ปุณณ์ยังขำ (อายเค้ามั้ยมึง) แน่นอนว่าอย่าหวังจะได้คำตอบ ขอกูด่าก่อนเหอะ "มึงตะโกนหาผู้ว่ากทม.เหรอ!!!!!!!!! อยู่ไหนวะ เสียงดังสาดด!!" "อยู่ร้านแล้วสิวะ!!!!!! เขามากันครบหมดทั้งองค์ประชุม เหลือแต่มึงกับพ่อมึงอะ!!!!!!!!!!" แล้วไอ้ห่านี่นี่มันยังไง... จะให้กูมีทั้งแม่ทั้งพ่อ "เออ ๆ กูกับพ่อกูกําลังจะไป!! เพิ่งแยกกะแม่ มึงรอขัดรองเท้าให้กูที่หน้าร้านได้เลย ไม่เกินยี่สิบนาที ไปละ!" ผมรีบคุยรีบวางทันทีเพราะเสียงมันค่อนข้างดังมาก ทั้งดนตรี (ไม่ได้ไปผับหรอกครับ แต่ร้านอาหารที่มันนัดเลี้ยงกันมีดนตรีสดเล่นด้วย) แล้วยังเพื่อนโวยวายกัน... นี่เดาจากแค่เสียงก็รู้ว่าแม่งต้องยกกันไปถล่มร้านเขาชัวร์ ล้านเปอร์เซ็นต์ "ตกลงร้านไหนวะ" ปุณณ์ถามผมพลางโบกแท็กซี่ให้จอดแล้ว ผมเปิดประตูรถเข้าไปแล้วบอกพี่คนขับทันทีว่า "สวนลุมครับ" ใช้เวลาไม่นานในการบึ่งมาถึงร้านที่เพื่อน ๆ นัดหมาย.. ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าร้านไหนเพราะมันชอบมาชิวกันที่นี่บ่อย ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเหมือนกัน รู้แต่ว่ามีเพื่อนที่ไหน ผมก็ว่าดีทั้งนั้นนั่นแหละ ผมกับปุณณ์ลงจากรถก่อนจะเดินมาด้วยกันจนถึงโซนที่พวกมันนั่งอยู่ ได้ยินเสียงเฮรับอย่างกะหมาเวลา177
มันหอนรับกันเป็นทอด ๆ (อายเชี่ย) แล้ว.. อื้อหืออออ.......... แม่งยกกันมาหมดทั้งโรงเรียนเลยปะวะะะ โซนนี้ผมเห็นแต่เพื่อนตัวเองหมดเลยครับ สี่สิบห้าสิบคนได้ "คู่รักใหม่ว่ะ!!!!!! ฮิ้ว ๆๆๆๆๆๆๆ" ไอ้เชี่ยโอมร้องเย้ว ๆ เหมือนคนเมา (ก็คงจะเมา) เรียกให้เพื่อนคนอื่นเฮตามจนผมล่ะอยากจะกุบขมับแล้วเดินกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด แต่ปุณณ์แค่ทำท่ายิ้ม ๆ ก่อนจะดึงผมไปโอบไหล่ เล่นเชี่ยอะไร!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! สวนลุมจะแตกก็เพราะเสียงพวกแม่งโห่ฮากันนี่ล่ะครับ -_-" "เฮ้ย! ปุณณ์! มึงก็เล่นไปได้ โน่มานั่งนี่เร็ว ๆๆๆๆ" ขอบคุณพระเจ้า.... เสียงสวรรค์ที่ส่งมาช่วยชีวิตผมคือไอ้เอิ้น มันตะโกนชวนผมไปนั่งใกล้ ๆ ขณะที่ปุณณ์เองก็มีเพื่อนอีกกลุ่มนึงเรียกให้ไปนั่งอีกฝั่ง ผมแหมะลงบนเก้าอี้ที่พวกมันเว้นว่างไว้เผื่อ ตรงนี้มีบรรดาม.5 สุมกันอยู่หลายคน ทั้งพวกช่วยงานบอล หลีด กองร้อย พาเหรด สแตน วงโยฯ หรือแม้แต่คนที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ยังมาโมเมฉลองด้วย ซึ่งไม่มีคิดมากอยู่แล้วครับ ยังไงเราก็เพื่อนกัน ^___^ แต่ที่เซอร์ไพร์สสุด ๆ เห็นทีจะเป็น... ไอ้กอล์ฟ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ไอ้กอล์ฟ!! มันมาด้วยครับ!!!!!!!!!!!!!!! กอล์ฟเป็นเพื่อนสนิทผมคนหนึ่ง (ซึ่งก็เคยอยู่วงนะ แต่อยู่แป๊บ ๆ ก็ขี้เกียจซ้อม ลาออก ไอ้ห่านี่...) มันเป็นคนดีใช้ได้ รักสนุก รักเพื่อนฝูง (เพื่อน ๆ ก็รักมันครับ) เฮไหนเฮนั่น เสียแต่ดันเป็นคนใจร้อน มุทะลุ แล้วก็ไม่ค่อยรอบคอบไปหน่อย บวกกับหน้าตามันกวนตีนด้วย เลยโดนรุ่นพี่กับพวกโรงเรียนอื่นเขม่นบ่อย ๆ จนชกต่อยกันประจำ (ลากเอาผมไปซวยด้วยก็หลายครั้งอยู่) แต่ล่าสุดไอ้คนที่มันมีเรื่องเสือกเป็นหลาน ๆ ของอธิการโรงเรียน กอล์ฟมันเลยซวย ถูกไล่ออกไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง (ตอนนั้นพวกผมเกลียดอธิการแทบแย่... ตอนนี้ผมก็ยังเกลียดอยู่เหมือนกัน) 178
แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ยังติดต่อกันประจำครับ บางทีก็นัดไปเที่ยวบ้าง หรือมันแวะมาหาผมที่บ้านบ้าง โทรคุยกันก็บ่อย แต่ผ่านมาระยะนึงแล้วที่ผมไม่ค่อยได้เจอมันเลย (ตั้งแต่ช่วงเตรียมงานบอลยุ่ง ๆ นี่ล่ะ) จนมาวันนี้ถึงได้เจอซักที "เป็นไงมาไงวะสาด! หายหัวไปเลยนะมึง!!" ผมตบบ่ามันดังป้าบบ เริ่มต้นทักทายทันที "ก็ดีว่ะ โรงเรียนใหม่สาวลูกครึ่งน่ารักตรึม กูเปรม" มันได้ทีรีบเกทับพวกผม เออ.. ใช่ซี่.... พวกกูมันเจอแต่ผู้ชายด้วยกันเองจนเอียนกันไปข้างแล้วเนี่ย อิจฉาว่ะ ไอ้กอล์ฟมันย้ายออกไปอยู่นานาชาติแถวสุขุมวิทครับ "กูอยากได้ลูกครึ่งมั่งว่ะ หาให้กูคนดิ่" หื่นอย่างนี้ไม่ใช่ผมแน่ครับ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้โอม ที่ยื่นหน้ามาซะจนกลิ่นเหล้าตลบอบอวลไปหมดแล้วว "มันก็มีนะเว่ย แต่ผู้หญิงเขาก็เลือกว่ะ" "ไอ้สาดดดดดดดดดด ด่ากู!" เออ... ไอ้กอล์ฟมันพูดความจริงก็หาว่ามันด่าอีก ฮ่า ๆๆ ผมขำหน้าไอ้โอมว่ะ ตอนนี้มันเป็นสีดำ ๆ แดง ๆ แสดงว่าเมาได้ที่ (ไอ้โอมมันเป็นคนผิวคลํ้าแดดครับ ไม่ถึงกับดำแต่ก็แทน ๆ) แต่แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ไอ้โอมที่หื่นอยู่คนเดียว.. เพราะไอ้เวรนี่ก็ไม่ได้แพ้กันเลย.. "เฮ้ย! กูไม่ขอฝรั่ง แต่กูอยากได้ญี่ปุ่นแบบน้องยูริของไอ้โน่อะ หาให้คนดิ่" ไอ้เชี่ยฟิล์ม.. มึงลามปามและ ผมตบหัวมันทันทีปั้กใหญ่ "อู๊ย!!!! ตบทำเชี่ยไรวะ เออ มึงยกน้องยูริให้กูเลยดีกว่า ได้ข่าวว่าไม่อยากได้... แล้วมึงก็เอากะไอ้ปุณณ์ ผัวใหม่มึงไป" ไอ้เชี่ยพวกนี้ ปากหมามันเป็นโรคติดต่อทางลมหายใจหรือเพศสัมพันธ์วะ ทำไมกระทรวงสาธารณสุขไม่ลงมาดูแล 'อูโว่ อูโว๊ะ โอ๊ะ ก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น น่ารัก.. ก็เลยเข้าไปทาความรู้จัก' แต่ยังไม่ทั๊นน..... ที่ผมจะต่อปากต่อคำอะไรกลับ คู่กรณีฝ่ายหญิงของผมดันโทรเข้ามาซะก่อน สงสัยคงอยากรายงานว่าถึงบ้านแล้วมั้ง.. ผมกดรับโทรศัพท์พลางชี้หน้าไอ้ฟิล์มเป็นเชิงฝากไว้ก่อน เห็นมันทำหน้าลิงใส่ผมกลับแล้วอยากกระทืบซักทีจริง ๆ 179
ผมเดินออกจากโต๊ะเลี่ยงมาคุยยังด้านนอกของร้านเพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวน ยูริโทรมาบอกผมว่าถึงบ้านแล้วจริง ๆ ก่อนจะกําชับให้ดื่มเหล้าน้อย ๆ อย่าเมา และส่ง sms บอกเธอเมื่อถึงบ้าน... เอาน่า มีคนคอยเป็นห่วงยังดีกว่าไม่มี ผมบอกตัวเองว่าอย่างนั้น ผมยืนคุยกับยูริอยู่พักนึงก่อนจะสังเกตเห็นว่ากอล์ฟตามมาสมทบอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับมองหน้าผมแบบแปลก ๆ เหมือนมีเรื่องอยากจะคุยด้วยจนผิดสังเกต ความรู้สึกผมมันบอกว่ากอล์ฟไม่ได้แค่บังเอิญมายืนสูบบุหรี่อยู่ข้าง ๆ แน่ ๆ จึงรีบตัดสินใจวางสายยูริลง "งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวถึงบ้านจะส่งข้อความไป... ครับ ๆ หวัดดี" เมื่อผมวางสายเสร็จกอล์ฟก็ยื่นบุหรี่มาให้ตัวนึงทันที แต่พอดีผมไม่ใช่คนสูบบุหรี่ว่ะ เพราะกลัวปากไม่ชมพู... ตลกละครับ อย่าเชื่อทุกเรื่องที่ผมพูดได้ปะ.. ผมสูบไม่เป็นต่างหาก แล้วถ้าอาป๊ารู้มีหวังบ่นหูชาาา "ไม่เอาว่ะ มึงมีไรป่าววะกอล์ฟ" ที่แน่ ๆ ผมไม่เคยเห็นมันทำท่าซีเรียสแบบนี้มาก่อน "ช่วงนี้มึงสนิทกับปุณณ์เหรอวะ" โอ่ย................ เบื่อตอบคำถามนี้จริงโว๊ย!!! เป็นคนอื่นมาถามผมคงด่ากลับไปแล้ว แต่เผอิญไอ้กอล์ฟมันทำหน้าจริงจังชอบกลว่ะ? "ก็เออ.. นิดหน่อย มึงเป็นไรเนี่ย" ยิ่งเห็นมันทำท่าทีลุกลี้ลุกลนผมยิ่งนึกสงสัย แล้วแม่งไม่บอกซักทีเนี่ยก็ทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่ "มึงมีไร บอกกูมา...." เร็ว ๆ!! "มัน.... ไอ้ปุณณ์น่ะ... ยังคบกับแฟนอยู่ป่าววะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น