วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Love Sick 3rd

หลังจากที่ปุณณ์พยายามลากผมเข้ามาในบ้านได้พักใหญ่ (จะเอาผมไปสาบานกับเจ้าป่าเจ้าเขาที่ไหนก็ได้
ว่าพยายามขัดขืนแล้วแต่สู้แรงมันไม่ไหวจริง ๆ) ในที่สุดตอนนี้ก้นเล็ก ๆ อันน่าหวงแหนของผม ก็ย้ายเข้ามานั่งอยู่ในซุ้มไม้ บริเวณสวนหน้าบ้านของมันเป็นที่เรียบร้อย นัยน์ตาไอ้ปุณณ์จ้องตรงเป๋งมายังผม ราวกับมีเรื่องประมาณล้านแปดแสนอยากจะบอก แต่ไม่รู้ควรเริ่มจากเรื่องไหนก่อนดี... ส่วนผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ว่าผมอยากจะฟัง -_-"......... "โน่!" มันเรียกชื่อผมในที่สุด เล่นเอาสะดุ้งโหยง เอาล่ะแม่ง.. ทีนี้... ผมควรจะเริ่มทำอะไรก่อน.. ระหว่างวิ่งหนี ดำดิน โทรแจ้งตำรวจ หรือส่งสัญญาณเรียกแบทแมน T___T "โน่... ฟังผมดี ๆ นะ" กูไม่อยากฟังงง T___T ปุณณ์มองหน้าผมที่คงทำท่าสยดสยองให้มันเห็นซะออกหน้าออกตา จนมันถอนหายใจเฮือก "ผมไม่ได้เป็นเกย์... ผมมีแฟนแล้ว เป็นผู้หญิง... โน่ก็รู้จัก เอม แฟนผมนี่" อะไรของมัน พูดจากลับไปกลับมาจริง ๆ ว่ะ.. แต่ประโยคนี้ฟังดูเข้าท่านะ ผมรู้สึกสบายตัวขึ้นตั้งเยอะ แน่นอนว่าผมรีบพยักหน้ารับกลับไปอย่างแข็งขัน เพราะผมก็รู้จัก เอม แฟนปุณณ์จริง ๆ เธออายุเท่าพวกเรา แต่อยู่คนละโรงเรียน (แน่สิ โรงเรียนเดียวกันก็กะเทยแน่แล้ว โรงเรียนผมมีแต่ผู้ชายนี่หว่า) เอม เป็นผู้หญิงสวยมาก จนถึงขั้นสวยจัด ถึงแม้ไม่แต่งหน้าก็ยังสวยอยู่ แต่งตัวทันสมัยแบบที่สาว ๆ ผู้ดีมีตังค์ชอบใส่เด๊ะ ๆ เรียกว่าควงไปไหนยังไงรับรองไม่มีวันขายหน้าเป็นอันขาด ยิ่งควงเข้ามาในโรงเรียนผมน่ะนะ พรรคพวกนํ้าลายสอมองตามกันสลอน ใคร ๆ ก็บอกว่า เอมกับปุณณ์ สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก.. ผมเองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่พูดคำนั้น เพราะเขาสมกันจริง ๆ
สมกันจนผมอดสงสัยไม่ได้.. ว่าประโยคต่อไปของปุณณ์จะเป็นคำว่าอะไร "แต่..... ผมอยากจะคบกันโน่.." ไอ้ห่า...... กูไม่อยากฟังแล้วโว๊ย!!!!!!!! "โอเคว่ะปุณณ์... พูดคำเดิมเลย เรากลับดีกว่า ไม่อยากฟังแล้วว่ะ" ผมตัดบทอย่างรวดเร็วพลางลุกขึ้นหมายจะกลับแน่นอน ไม่มีการล้อเล่น... ผมไม่เข้าใจอะไรมันเลย จะมานั่งแก้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เป็นเกย์ แถมยังยกเรื่องเอมมาอ้างอีกทำไม ในเมื่อคำต่อไป มันยังยืนยันจะทำตัววิปริตกับผมอยู่ดี "เพราะที่บ้านผมกำลังจะบังคับให้ดูตัว ผมขัดขืนพ่อกับแม่ไม่ได้ นอกจากน้องสาวจะช่วย ซึ่งเธอบอกว่าถ้าผมมีแฟนเป็นผู้ชายเธอก็จะโอเค" O.o หา... อะไรนะ????? มันพูดทั้งยาวและเร็วจนฟังไม่ถนัด สิ่งเดียวที่รู้ตอนนี้คือว่า..... ผมควรจะฟัง? "อะไรนะ? เอาช้า ๆ ชัด ๆ" "ผมบอกว่า... ที่บ้านกำลังจะบังคับให้ดูตัว" ปุณณ์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ ในขณะที่ผมกลับไปนั่งตรงข้ามมันเหมือนเดิมแล้ว "อ่าฮะ.. ?" "แล้วผมไม่เคยปฏิเสธอะไรพ่อกับแม่ได้... โน่ก็รู้ว่าท่านดุ...." ถูกต้องใช่เลย... ผมยังฝังใจแม่นถึงงานวันเกิดที่บ้านมันเมื่อ 2 ปีก่อน เพราะแม่งเล่นเอาเกร็งแทบแย่ ต้องมานั่งกลั้นคำหยาบยิ่งกว่ากลั้นตด เพราะตดยังปล่อยออกมาได้ไม่มีใครรู้ (ปะวะ?) แต่คำหยาบแม่งหลุดเมื่อไหร่... มีหวังโดนโยนออกจากบ้านไฮโซเมื่อนั้น.... กลับไปเดือดร้อนถึงไอ้โอมต้องนั่งฟังผมพ่นสารพัดสัตว์ที่ทนเก็บเอาไว้สามชั่วโมงเป็นวรรคเป็นเวรจนหูชา "แต่ไม่รู้เป็นอะไร ท่านยอมแป้งเสมอ" ปุณณ์พูดต่อขัดความคิดที่กำลังเพ้อเจ้อของผม.. มันพูดว่าอะไรนะ? อ๋อ... เออ แป้งนี่เป็นชื่อน้องสาวมันครับ ผมพอจะจำได้อยู่ น้องแป้งนี่เป็นเด็กแสบพอตัวในความทรงจำ
สยองของผม.. ถ้าจะบอกว่าแม้แต่พ่อกับแม่ยังกลัวนี่ผมก็ไม่ค่อยแปลกใจ -_-".. "ดังนั้นถ้าแป้งช่วยพูดให้ผม ผมก็คงไม่ต้องไปดูตัว แต่................." ถึงตรงนี้ผมเลิกขึ้นคิ้วสูง.... แต่.... แต่อะไรวะ!?........ ตอนผมเรียนพิเศษวิชาภาษาไทย อาจารย์ปิงเคยบอกกับผมว่า หลังคำว่า 'แต่' มักเป็น main idea เสมอ.. ซึ่งนักเรียนมีหน้าที่ต้องสนใจมันเป็นพิเศษเวลาทำข้อสอบ แต่.. ตอนนี้ผมไม่อยากสนใจมันเลยว่ะ -_-"... main idea ผม ชัดพอปะ? "เราไม่ฟังต่อได้มะ?" "ไม่ได้โน่ ฟังให้จบดิ่" แม่งขี้บังคับอะ!!!!!!!!!!!! T[]T ผมนั่งทำหน้าเซ็งรอมันพูดต่อด้วยจิตใจลุ้นระทึก... ก็ไอ้ความรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ๆ นี่คืออะไรวะ หมายความว่าผมจะต้องเสียเอกราชให้ไอ้ปุณณ์รึเปล่า T__T "แต่แป้งมัน... ก็เหมือนเด็กผู้หญิงสมัยนี้อะโน่ ที่ชอบอ่านนิยายกับการ์ตูนเกย์ อะไรของแป้งก็ไม่รู้ ผมเห็นซื้อมาเก็บเต็มห้อง" บทสนทนานี้เริ่มฟังดูน่ากลัวขึ้นทุกที ๆ... "แป้งก็เลยบอกผมว่า ถ้าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย แป้งถึงจะยอมช่วยพูดให้... แล้วถ้าแฟนผมน่ารัก... ก็จะยิ่งช่วยเข้าไปใหญ่" เอาล่ะ... ใครก็ได้บอกทีว่าผมไม่ได้กระพริบตามากี่นาทีแล้ว... ในใจผมเริ่มสวดมนต์อธิษฐานขอขมาเจ้ากรรมนายเวร.. เป็นไปได้ก็ขอให้หูตัวเองบอดซักสองสามนาที หากคำอธิษฐานเป็นจริงผมรับรองจะอาสาเก็บขยะรอบสนามหลวงซัก 3 เดือนแก้บน แต่ไม่ยักมีเจ้าป่าเจ้าเขาองค์ไหนเห็นใจผมซักคน T___T
"คือโน่ก็........ ดูดี..." นี่คือประโยคต่อมาที่ผมได้ยิน... โอเคอะปุณณ์!!!!!!! กูขอโทษที่เกิดมาตัวเล็กกว่ามึง (จริง ๆ ผมก็ไม่ได้เตี้ยเท่าไหร่ แล้วปุณณ์มันก็ไม่ได้สูงมากมายอะไร แต่ก็นั่นแหละ... ยังไงผมก็ยังสูงน้อยกว่ามันอยู่ดี) กูขอโทษที่กูเป็นลูกคนจีน ตัวเลยขาวจั๊วะ ตากแดดยังไงก็ไม่ยอมดำ กูขอโทษที่ถึงแม้กูจะเป็นลูกคนจีนตาครึ่งชั้น แต่ตากูเสือกกลมแป๋ว แถมปากยังแดงแจ๋..... กูโดนเพื่อนแซวอยู่บ่อย ๆ ว่าน่ารักก็จริงอยู่ แต่กูไม่เคยคิดอะไร จนถึงวันนี้นี่แหละที่มึงทำให้กูรู้สึกว่าสิ่งที่กูเป็นมัน.. นรกชัด ๆ !!! ท่าทางมันจะอ่านความคิดผมออกทั้งหมดโดยที่ไม่ต้องออกเสียงซักแอะ.. "โธ่โน่... ผมขอโทษ ไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่คือ...... จะให้ไปคว้าเอาไอ้เชนมาบอกแป้งว่านี่แฟน ก็ไม่ใช่เรื่องใช่ไหมล่ะ" เข้าใจพูดนี่หว่า... มันอ้างไปถึงไอ้เชนครับ ไอ้เชนนี่เป็นนักกีฬาเต็งหนึ่งของโรงเรียน... ฟังดูก็รู้แล้วใช่ไหมล่ะครับว่าไซส์จะประมาณไหน "แล้วทำไมไม่ไปให้พวกแก๊งค์นางฟ้าช่วยล่ะ" ผมโยนถามต่อไปถึงแก๊งค์กะเทยจอมแก่น ที่เซี้ยวซะจนผู้ชายแมน ๆ อย่างพวกผมยังผวา.. แน่ล่ะว่าถ้าลองปุณณ์ไปขอความช่วยเหลือจากพวกนี้ล่ะก็ ขี้คร้านจะกรี๊ดกร๊าดแย่งกันช่วยแทบไม่ทัน "ก็แป้งเขาไม่ชอบแบบนั้นนี่โน่ แป้งชอบเกย์ ไม่ได้ชอบกะเทย..." แล้วกูเป็นที่ไหนล่ะ!!!!! อยากจะตะโกนใส่หน้าจริงโว๊ยยย "ไอ้โอ๊ค ไอ้ดุลย์ วิทย์... ผู้ชายตัวเล็ก ๆ ขาว ๆ เยอะแยะ ตัวเล็กกว่าเราด้วย ทำไมไม่ไปให้พวกนั้นช่วยล่ะ" ผมยังพยายามโบ้ยต่อไม่จบสิ้น แต่ดูท่าทางปุณณ์จะหน่าย ถึงได้ถอนหายใจใส่หน้าผมอย่างนั้น"พวกนั้นก็ปกติเหมือนเรานี่โน่... ไม่ยอมหรอก" "แล้วทำไมต้องเราอะ!!!" "ก็ถ้ากับโน่........ ผมยังมีเรื่องที่ช่วยโน่แลกเปลี่ยนได้" สะอึกอุกกันเลยทีเดียว......... นี่ผมกำลังถูกขู่รึเปล่าวะ?? เกือบลืมไปแล้วเชียวว่าตัวเองต้องอาศัยใบบุญจากปุณณ์อยู่ ถึงตอนนี้ผมมองเห็นหน้าเจ้าปุณณ์เป็นแบงค์พัน สองปึก ปึกละหมื่น เรียบร้อยแล้ว "โอเคไหม... ที่อื่นไม่ต้อง ขอแค่ต่อหน้าแป้งก็พอ.... แล้วเงินชมรมโน่ ได้แน่นอน" ...... หึ๊ยย!!!...................................... เพื่อเงินสองหมื่น กูต้องยอมเสียศักดิ์ศรี เป็นเมีย (ในหน้าที่) ของยอดชายนายปุณณ์เลยเหรอวะ!!! ผมมองหน้ามันที่ยิ้มกริ่มอยู่พลางครุ่นคิด แต่ยังไม่ทันจะคิดตกดี เสียงแหลม ๆ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นก่อน "พี่ปุณณ์ นี่ใครน่ะ?"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น