วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Love sick 1st


"โน่!!!! ไหง๋งบชมรมเรามนั หดเหลือแค่นี้ล่ะวะ !?" เสียงโวยวายของเจ้าโอมร้องจ้าลั่ นห้องชมรมทันทีที่ผม
ย่างเท้าเข้ามาถึง... นี่ยังไม่ทันจะหายใจในห้องชมรมได้เกิน 1 วินาทีด้วยซ้ำ ไอ้แผ่นกระดาษแจ้งงบประมาณ
ตัวปัญหาก็มีอันลอยละล่องมาบังสายตาผมเอาไว้ก่อน
ผมขมวดคิ้วอ่านรายละเอียดบนกระดาษแผ่นนั้น (ที่ไอ้โอมประเคนให้ผมถึงหน้า ) อย่างถ้วนถี่ .... จำได้ดียิ่ง
กว่าจำวันเกิดอั้ม- พัชราภาซะอีก ว่าผมยื่นขอไปสองหมื่นห้าพัน เป็นค่าบำรุงกลองชุดที่เริ่มจะเก่าแล้วของ
ชมรมเรา...
แต่แล้วทาไมมันเหลือแค่ห้าพันอย่างนั้นล่ะวะ!!! อีกสองหมื่นไปไหน !?
"มึง.... ใบเสร็จค่ากลองจะมาแล้วนะโว๊ยยย งี้ไม่ต้องไปนั่งขอทา นรึไง!" ไอ้เจ้าโอมยังคงประท้วงโวยวาย
ไม่รู้จักเหนื่อย ในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ ในชมรมนั่งกุบขมบั แล้วผู้รักษาตำแหน่งประธานชมรมดนตรี
อย่างผมจะทำอะไรได้
"เดี๋ยวกูมา "
***
เสียงรองเท้าหนังสีดำของผมกระทบกับพื้นมนั ปลาบของตึกอำนวยการอย่างเร่งรี่ด้วยกลัวว่า หากเย็น
เกินไปแล้วห้องนั้นจะปิ ด ตอนนี้ในหัวมนั ตื้อไปหมดทั้งความไม่เข้าใจและกลัวความบกพร่องหน้าที่ของ
ตัวเอง บ้าชะมดั !! นี่ผมไปทำพลาดตอนช่วงไหนล่ะเนี่ย !? ทั้งที่มนั่ ใจแล้วเชียวว่างบประมาณที่ขอไปจะได้แน่ ๆ จนถึงขั้นลงมือสั่งของไปแล้ว แต่สุดท้ายดันมาโดนตัดงบแบบนี้ได้ไง!? บิงโก!! ห้องสภานักเรียนยังเปิดอยู่!! ผมหวังว่าจะได้เจอคนที่มีอำนาจตัดสินใจในนั้นซักคนสองคนนะ "ตัวแทนจากชมรมดนตรีมาขอตรวจสอบงบประมาณที่คาดว่าจะผิดพลาดครับ!!" เสียงที่เปล่งออกไปซะดังดูท่าจะเสียเปล่า เมื่อเบื้องหน้าผมปรากฏร่างโปร่งของเด็กชายแค่คนเดียวในห้องสภานักเรียนนั้น ปุณณ์ ภูมิพัฒน์ เลขาสภานักเรียน 2 ปีซ้อน เรียนชั้นปีเดียวกับผม! (ถึงจะไม่ค่อยสนิทกันก็เถอะ) ไม่เสียแรงเปล่าแล้วโว๊ยยย ถ้าเป็นเจ้านี่ ต้องช่วยผมได้แน่นอน!!! "ปุณณ์! ช่วยดูงบชมรมเราให้หน่อยสิ นะ ๆๆ หายไปตั้งสองหมื่นกว่าแน่ะ จะบ้าตายอยู่แล้ว" ผมฉวยโอกาสจากความเป็นเพื่อน (ห่าง ๆ) ทันทีที่หมอนั่นมองเห็นผม ดูท่าทางมันตกใจนิดหน่อย แต่ก็เดินไปเปิดแฟ้มงบประมาณเช็คให้ผมดูแต่โดยดี "แป๊บนะโน่..." โอเค.. รอได้! ผมยืนมองปุณณ์ที่พลิกกระดาษไปแฟ้มไปมาอย่างใจจดจ่อ อยากจะให้คำพูดที่ออกมาจากเจ้านั่นเป็นคำว่า 'เออว่ะ ผิดจริง ๆ ด้วย ขอโทษนะ' หรือไม่ก็ 'เดี๋ยวเงินที่เหลือจะตามไปอาทิตย์หน้า' หรืออะไรก็ตามเทือก ๆ นั้น แม้ความหวังจะแลดูริบหรี่ เพราะสภานักเรียนทำงานไม่เคยพลาด (ยิ่งมีปุณณ์เป็นเลขาคอยตรวจเช็คอย่างนี้ด้วยแล้ว) และงบประมาณก็ไม่เคยออกทีละขยักแบบนั้นเช่นกัน "ไม่ผิดว่ะ... มันถูกแล้วนะโน่ โน่ดูนี่สิ" ปุณณ์พูดคำที่ผมไม่อยากฟังมากที่สุด พร้อมกับยื่นรายการงบประมาณในแฟ้มให้ผมดู... ทั้งที่ตัวหนังสือมันก็เล็กนิดเดียว แต่ภาพเลข 5,000 ดันกระแทกตาผมจนแทบหงาย
"เป็นไปได้ไงเนี่ย!?" "ก็ตอนวันพิจงบโน่ไม่ได้มาใช่ปะ ส่งใครมาแทนวะ" ปุณณ์พูดกระตุ้นให้ผมคิด และผมก็คิดออก... วันพิจงบประจำปี ที่ทั้งชมรมและองค์กรต่าง ๆ ในโรงเรียนจะต้องเข้าร่วมเพื่อจัดสรรงบประมาณเหล่านั้น ผมไม่อยู่กรุงเทพฯ เพราะอาม่าที่เพชรบุรีเกิดป่วยหนักจนต้องแห่กันลงไปเยี่ยมกะทันหัน ทำให้คนที่ไปเข้าร่วมพิจงบในฐานะตัวแทนชมรมดนตรีไม่ใช่ผม แต่เป็น.............. ไอ้ง่อย!!! จริง ๆ มันชื่อไอ้เงาะ แต่ถ้าผมอารมณ์เสียเมื่อไหร่ผมจะเรียกมันง่อย (ชื่อไหนก็ทุเรศทั้งนั้นแหละ ผมว่า) เพื่อนในชมรมผมเอง คนที่ถูกจับฉลากให้ไปแทนผมเพราะไม่มีใครอยากไปซักคน.. อย่างนี้แหละครับ พิจงบ แต่ละครั้งใช้เวลาไม่เคยตํ่ากว่า 12 ชั่วโมง แถมยังเครียดมากอีกต่างหาก... ว่าแต่ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะวะไอ้ง่อย!!! "ผมก็อยู่ในที่พิจงบวันนั้น พี่อั๋นชมรมวรรณศิลป์สับงบชมรมโน่ใหญ่เลย เพราะไม่งั้นของเขาจะถูกตัดเอง แต่เงาะมันไม่กล้าเถียงพี่อั๋น ได้แต่นั่งเงียบจนโดนพี่อั๋นสับไปเหลือห้าพันนั่นแหละ ผมก็งง ๆ เหมือนกันว่าโน่จะไม่ว่าเหรอ" "ไม่ว่าที่ไหนล่ะ..... แล้วทำไงดีวะเนี่ยยยยยยยยยยย" ผมโวยวายกับตัวเองอย่างจนปัญญาจะทำวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ ในขณะที่ห้องสภาทั้งห้องเงียบกริบ.. เสียงแฟ้มเล่มนั้นถูกวางลงบนโต๊ะกลางห้อง พร้อม ๆ กับที่ปุณณ์อ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง "แต่ผมมีอีกวิธีหนึ่ง..." "ว่ามาเลยปุณณ์ ว่ามาเดี๋ยวนี้เลย เราทำทุกอย่าง!!" โอกาสมาถึงหน้าจะไม่ให้คว้าได้ยังไงล่ะครับ!! ผมรีบมองหน้าเพื่อนร่วมชั้นปีที่ไม่สนิทเท่าไหร่คนนี้ทันที โดยไม่ทันสังเกตประกายตาแปลก ๆ จากคนตรงหน้า
ถ้าผมรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นยังไง ผมคงไม่มีวันพูดคำนั้นเด็ดขาด!!!!!! "โน่มาเป็นแฟนผมสิ.."

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น